บทความน่าสนใจ

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ E-Commerce (เว็บขายของ หรือที่เรียกว่าร้านค้าออนไลน์ )

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ E-Commerce (เว็บขายของ หรือที่เรียกว่าร้านค้าออนไลน์ )

ในยุคปัจจุบันคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นยุคสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้
และมีการแข่งขันอย่างสูงในธุรกิจ กระแสโลกาภิวัฒน์และการเปิดเขตการค้าเสรี
ทำให้สถาบันอุดมศึกษาหลายแห่งเกิดการแข่งขันมากขึ้นทั้งในและต่างประเทศ เพื่อความอยู่รอด
จำเป็นต้องมุ่งแสวงหารายได้ โดยมุ่งดำเนินกิจการเพื่อธุรกิจหรือการพาณิชย์มากขึ้น
ภาพลักษณ์ของการจัดการศึกษาจึงต้องถูกมองเป็นภาพธุรกิจการค้านักศึกษาถูกมองเป็นลูกค้ารายใหญ่
ทำอย่างไรลูกค้าจึงจะเข้ามาซื้อสินค้าหรือเข้ามาศึกษาต่อจำนวนมากๆ ต่างก็แข่งขันเพื่อแย่งชิงลูกค้า

เทคโนโลยีสารเทศที่ทันสมัยจึงถูกนำมาเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการจัดการศึกษาได้อย่างมาก คือ
ในยุคที่มีการแข่งขันการอย่างรุนแรง ทำให้การค้าและการดำเนินธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงองค์กรต่างๆ
เริ่มพยายามเปลี่ยนแปลงให้ก้าวทันสู่ยุคของการค้ารูปแบบใหม่
โดยผ่านเครือข่ายนเทอร์เน็ตเพื่อเพิ่มช่องทางการค้าขายการตลาดและการบริการไปสู่กลุ่มลูกค้า
ทั้งเก่าและใหม่เป็นการสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้า คำว่า อีคอมเมิร์ซ ( E-Commerce/Electronics Commerce )
จัดเป็นทางเลือกที่ช่วยให้องค์กรหรือสถาบันการศึกษาได้เปรียบคู่แข่งขัน

หรือจะเรีกอีกอย่างหนึ่งว่า

เว็บขายของ ก็ได้ค่ะ

แล้วทำไมจะต้องมี

เว็บขายของ

อันดับแรกเลยค่ะ เพื่อทำให้ลูกค้า “ค้นหา” คุณเจอบนโลกออนไลน์

ลองคิดดูว่าคนใช้ Google กันเพื่ออะไร?

ใช่แล้วค่ะ คนใช้ Google เพื่อค้นหาในสิ่งที่ต้องการ การที่คนค้นหาบน Google แล้วเจอเว็บไซต์
หรือเว็บขายของของคุณ จากนั้นก็คลิ๊กเข้ามา มันเป็นตัวบ่งบอกว่า
1. เขามีความต้องการจริงๆ
2. เว็บไซต์ของคุณน่าดึงดูดเพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการของเขาได้
3. ข้อมูลที่คุณลงครบถ้วนเค้าสามารถเข้าใจในทันทีหรือไม่

ถ้าคุณขาย หรือทำธุรกิจผ่านโซเชียลมีเดีย, หรือขายแบบมีหน้าร้านอยู่แล้ว
อย่าลืมที่จะกระจายความเสี่ยง เปิดเว็บไซต์ หรือจัดทำเว็บไซต์ เพื่อเพิ่มช่องทางการนำเสนอแบบออนไลน์
เพื่อตอบโจทย์ Search Engine อย่าง Google ดูนะคะเพราะการที่ลูกค้าเข้ามาเจอคุณผ่านการ “ค้นหา” นั้น
มันเป็นช่องทางที่ทรงพลังที่สุดช่องทางหนึ่งเลยล่ะ

บางคนบอกว่า ไม่จำเป็นต้องทำเว็บไซต์หรอก ใช้โซเชียลมีเดีย ขายก็ได้ ก็จริงค่ะ
แต่ระดับการค้นหาบนโซเชียลมีเดีย เมื่อเทียบกับเว็บไซต์แล้วมันต่างกันมาก เพราะคนไม่ได้เล่นโซเชียลมีเดียเพื่อค้นหาข้อมูล
จุดประสงค์หลักในการเล่นโซเชียลมีเดียของคนทั่วไปคือเชื่อมต่อกับคนอื่นๆ เมื่อวันหนึ่งคุณทำผิดกฎเค้าก็จะแบน user ของคุณ ทำให้คุณไม่สามารถใช้งานได้เป็นต้น

ที่สำคัญการมีเว็บไซต์ หรือเว็บขายของของคุณช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับตัวสินค้า
และมีความน่าเชื่อถือ

แต่ถ้าคุณมีหน้าร้าน มันก็เป็นตัวบ่งบอกถึงความพร้อมที่จะบริการ และความเป็นมืออาชีพของคุณ

ลองสังเกตดูว่าแบรนด์ส่วนใหญ่ที่มีชื่อเสียงแล้วต่างก็มีเว็บไซต์ หรือเว็บขายของด้วยกันทั้งนั้น
ระหว่างมีเว็บ กับไม่มีเว็บ ความน่าเชื่อถือบนโลกออนไลน์มันต่างกันเลยค่ะ