ขั้นตอนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ มีทั้งหมด 8 ขั้นตอน คือ
1. การสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่
2. การคัดเลือกความคิด
3. การทดสอบความคิด
4. การวางกลยุทธ์ทางการตลาด
5. การวิเคราะห์ธุรกิจ
6. การพัฒนาผลิตภัณฑ์
7. การทดสอบตลาด
8. การนำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด
1. การสร้างความคิดใหม่
วัตถุประสงค์ของการสร้างความคิดใหม่ ก็เพื่อสร้างความคิดจำนวนมาก
เทคนิคการค้นความคิดใหม่ อาจทำได้โดย การระดมสมอง การสังเคราะห์ความคิดใหม่
การวิเคราะห์ปัญหาหรือความต้องการ การเขียนรายการปัจจัยที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้มากที่สุด เป็นต้น
2. การคัดเลือกความคิด
เมื่อได้ความคิดใหม่จำนวนหนึ่งแล้ว ต้องมีการคัดเลือกความคิดเพื่อลดจำนวนความคิดที่มีอยู่ให้เหลือน้อยลง
และน่าสนใจมากขึ้น วัตถุประสงค์ของการคัดเลือกความคิด ก็คือ การลดจำนวนความคิดลงให้เร็วที่สุด
เนื่องจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ต้องใช้เงินและวัตถุดิบมากมาย ถ้าลดจำนวนความคิดลงก็ช่วยลดทุนได้ส่วนหนึ่ง
อย่างไรก็ตามการคัดเลือกความคิดต้องระวังการเกิด การละทิ้งความคิดดีๆไป หรือการนำความคิดที่ไม่ดีมาผลิตสินค้าออกสู่ตลาด
3. การพัฒนาและทอสอบแนวคิด
ความคิดในเรื่องผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างหนึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นแนวคิดของผลิตภัณฑ์ได้หลายอย่าง
ขึ้นอยู่กับว่าใครจะใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้และจะได้ประโยชน์อย่างไร ใช้โอกาสไหน
และจากแนวความคิดของผลิตภัณฑ์ก็จะได้แนวคิดตราสินค้า เมื่อได้แนวคิดแล้ว
ก็จะต้องทำการทดสอบแนวคิดนั้นว่าเหมาะสมที่จะนำมาใช้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหรือไม่
การออกแบบผลิตภัณฑ์ตามที่ลูกค้าต้องการในทัศนคติของบริษัทเอง เป็นเรื่องที่ง่ายเมื่อเทียบกับ
การออกแบบตามที่ลูกค้าจริงๆ ความต้องการลูกค้าแต่ละคนมีความชอบแตกต่างกัน
ผลิตภัณฑ์ที่พยามยามตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกคน โดยทั่วไปแล้วก็จะไม่สามารถทำให้ลูกค้าสักคน
รู้สึกประทับใจได้ การทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้าโดย พยายามออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ เหมาะกับลูกค้าเป้าหมาย
ก็จะทำให้ SMEs ประสบความสำเร็จแล้ว
4. การวางกลยุทธ์ทางการตลาด
เมื่อแนวคิดได้ผ่านการทดสอบและบริษัทมั่นใจว่าตรงกับความต้องการของลูกค้าเป้าหมายแล้วก็จะต้องมีการวางกลยุทธ์การ
ตลาดที่เหมาะสมโดยประกอบด้วย 3 ส่วนคือ
– ส่วนแรก ต้องกล่าวถึงขนาด โครงสร้าง และพฤติกรรมของตลาดเป้าหมาย การวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ ยอดขาย
ส่วนแบ่งตลาด เป้าหมายการทำกำไร
– ส่วนที่สอง ของกลยุทธ์การตลาด ต้องกล่าวถึง ราคา กลยุทธ์การจัดจำหน่าย งบประมารด้านการตลาด
– ส่วนที่สาม ต้องกล่าวถึง ยอดขายในระยะยาว กำไร และกลยุทธ์ทางการตลาดในระยะยาว
5. การวิเคราะห์ธุรกิจ
หลังจากวางกลยุทธ์แล้ว ก็จะต้องนำมาประมาณยอดขาย ต้นทุนและกำไร และดูว่าสมควร
ที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อไปหรือไม่ โดยอาจจะใช้ Break – even Analysis ที่จะดูว่าบริษัท
ต้องการขายสินค้ากี่หน่วยจึงจะคุ้มกับต้นทุนกี่หน่วยจึงจะคุ้มกับต้นทุนที่ลงทุนไป หรืออาจใช้การวิเคราะห์ความเสี่ยง
ในการประเมิณก็ได้ โดยดูว่ากำไรจะเป็นอย่างไร ในกรณีที่แย่ที่สุด ปานกลาง หรือดีที่สุด
6. การพัฒนาผลิตภัณฑ์
ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง เป็นการแปรรูปแนวคิดของผลิตภัณฑ์มาเป็นสินค้า
ที่พร้อมจะนำไปทดสอบตลาด โดยจะเริ่มผลิต ผลิตภัณฑ์ต้นแบบขึ้น ซึ่งขั้นตอนนี้อาจใช้เวลาเพียง สัปดาห์
ปี หรือหลายๆ ปีก็ได้
7. การทดสอบตลาด
วัตถุประสงค์ของการทดสอบตลาด ก็เพื่อดูว่าลูกค้าจะตอบสนองต่อสินค้าอย่างไร
และขนาดของตลาดเป็นเท่าใด
8. การนำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด
ถ้าการทดสอบออกมาดี ขั้นตอนสุดท้ายก็คือ การนำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดก็เป็นช่วงที่ต้องการเงินลงทุน
สูงสุด โดยจะต้องตอบคำถามเหล่านี้
– เมื่อไหร่? คือ ช่วงเวลาที่จะนำสินค้าออกจำหน่าย
– ที่ไหน? คือ ตลาดที่ใดที่จำสินค้าออกมาจำหน่าย
– ใคร? จะนำสินค้าไปจำหน่ายให้แก่ใครบ้าง
– อย่างไร? จะนำสินค้าไปจำหน่ายอย่างไร
เมื่อการใช้ชีวิตของคนในสังคมเมืองเปลี่ยนไป ส่วนใหญ่อยู่เป็นครอบครัวเล็ก ในบ้าน หรืออพาร์ทเม้นท์เล็กๆ
ที่มีเนื้อที่จำกัด และใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ ไม่ค่อยมีเวลาทำอาหารทานเอง ส่วนใหญ่มักซื้อกับข้าวสำเร็จรูป
เพื่อความสะดวกและหุงข้าวทานเอง เพื่อให้ได้ข้าวสุกใหม่ร้อน และน่ารับประทาน
การออกแบบผลิตภัณฑ์ก็ต้องปรับปรุงให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค อย่างหม้อหุงข้าว
ที่มีการพัฒนาออกแบบให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้