การทำเว็บเป็นการลงทุนในระยะยาว เพราะเวลาที่ลูกค้าสนใจที่จะออกแบบบ้าน เค้าก็จะค้นหาสถาปนิกใน google หรือใน search engine แต่หลายคนก็ไม่ได้คำนึงถึง ความคุ้มค่าของการลงทุน การวางรากฐานที่ดีตั้งแต่ต้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นการจะทำเว็บดีๆ สักเว็บจึงจำเป็นต้องมีนักออกแบบเว็บไซต์ที่ดูแลใส่ใจ ไม่ใช่แก้นั่นก็คิดเงิน หรือให้ทำอะไรก็มีแต่ค่าใช้จ่ายเป็นต้น บ้านทำเว็บเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุด ที่จะช่วยลดต้นทุนและดูแลทุกความต้องการของเจ้าของเว็บออกมาเป็นแบบเว็บที่สมบูรณ์บนพื้นฐานของความเป็นไปได้อย่างมีมาตรฐาน

เหตุผลที่ควรใช้บริการทำเว็บไซต์ กับบ้านทำเว็บ

• เว็บมีมาตรฐานตรงตามความต้องการของลูกค้าและ (seo) search engine optimization
  บ้านทำเว็บ คือผู้มีความเข้าใจมาตรฐานการทำเว็บไซต์ และสามารถวางแผนการสร้างเว็บและเลือกใช้ script ที่เหมาะกับงานได้อย่างมีมาตรฐาน
• เป็นเพื่อนคู่คิดตั้งแต่ต้นจนจบ
  เจ้าของเว็บที่เลือกทำเว็บโดยมีบ้านทำเว็บเป็นผู้ช่วย สามารถวางใจได้ว่าจะมีคนคอยช่วยแบ่งเบาภาระขั้นตอนการทำงาน เสมือนมีเพื่อนคู่คิด แต่การวางแนวคิดการออกแบบ แนวทางการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการทำงาน เพื่อประกอบการตัดสินใจที่ดีที่สุด
•  ทำให้เห็นภาพรวมของงบประมาณ
  การจ้างบ้านทำเว็บนอกจากจะวางใจเพราะงานสร้างที่ออกมาดี Layout ไม่เพื้ยนแล้ว ยังสามารถเห็นภาพรวมของงบประมาณได้อย่างละเอียด ไม่มีบวกเพิ่ม ซึ่งเจ้าของเว็บสามารถนำไปเปรียบเทียบราคาเองได้ ในขณะที่การจ้างผู้รับเหมาทำเว็บหรือฟรีแลนซ์ด้วยตัวเองอาจมีโอกาสที่จะถูกเอาเปรียบเรื่องราคา และค่าใช้จ่ายหยุมหยิม หรืองานการออกแบบที่แพงเกินจริง
• บ้านทำเว็บให้มากกว่าแบบเว็บไซต์
  นอกจากการออกแบบเว็บไซต์ที่เป็นไปตามความต้องการของเจ้าขอเว็บ การได้พูดคุยแลกเปลี่ยนแนวคิดสำหรับงานออกแบบกับเจ้าของเว็บยังได้พัฒนาองค์ความรู้ทางการออกแบบ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมถึงอัพเดตเทรนด์แบบเว็บไซต์ในช่วงนั้นๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจหรือการเลือกใช้ Script ที่เหมาะสมที่สุด ตรงใจเจ้าของเว็บไซต์มากที่สุด แต่ยังคงอยู่บนพื้นฐานงานทำเว็บที่มีมาตรฐาน

1. เพิ่มความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจของคุณ
การลงทุนทำเว็บไซต์ ทำให้ลูกค้าสามารถทราบถึงข้อมูลต่างๆ ของธุรกิจเราได้อย่างง่ายดาย และทำให้เกิดความน่าเชื่อถือเมื่อจะซื้อหรือใช้บริการจากธุรกิจของเรา อย่างน้อยก็มีการแสดงตัวตนว่ามีเว็บไซต์เป็นของตัวเองนะ ทำให้ลูกค้ากล้าซื้อสินค้าและบริการของเราได้ง่ายขึ้น ลูกค้าค้นหาคุณเจอบน Google เหมือนอยู่บนทำเลทอง

ทุกท่านน่าจะเคยใช้ Google ในการ Search หาข้อมูล และผลลัพท์การค้นหาและข้อมูลที่ตรงใจ ส่วนใหญ่จะอยู่บนเว็บไซต์ใช่ไหม เราสามารถดูข้อมูลการค้นหา ว่าลูกค้าของเราใช้คำอะไร Search หาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของเราบ้าง และเป็นจุดเริ่มต้นของการทำ Google ads และ SEO นั่นเอง ลงบทความให้ความรู้ ลูกค้าเข้ามาก็อ่านได้ง่ายกว่า แถมติด Google ได้ด้วย

นอกจากหน้าหลักๆ และ Keyword หลักๆ ที่เราอยากให้ติดใน Google แล้ว การทำการ Research keyword เพิ่มเติมว่าลูกค้าของเรามีการค้นหาข้อมูล ความรู้ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ ธุรกิจของเราและนำมาเขียนบทความ How to หรือข้อมูลต่างๆ ที่ลูกค้าต้องการทราบ ทำให้สร้างความน่าเชื่อถือ ได้เครดิต ลากเค้ามาเป็นลูกค้า และปิดการขาย ถ้าเขียนดีๆ ติด Google ขึ้นมา ก็มีช่องทางการหาลูกค้าแบบฟรีๆ ขึ้นอีกทาง
ติด Pixel เพื่อการทำ Retargeting บน Facebook ads และ Google ads

อย่างที่ทุกท่านทราบ ทุกวันนี้การลงโฆษณาแบบตามหลอกหลอนหรือ Retageting เป็นที่นิยมและได้ผลลัพท์ดีมา เมื่อเปรียบเทียบกับการยิงโฆษณาแบบทั่วไป หนึ่งในที่ๆ เราสามารถเซ็ตระบบโฆษณาแบบ Retargeting นี้ ก็คือเว็บไซต์ที่แหล่ะครับ แถมเราสามารถเซตกลุ่มเป้าหมายให้ตามคนที่เข้ามาในเว็บไซต์ทั้งหมด หรือจะเฉพาะเจาะจงให้ตามเฉพาะคนที่เข้าหน้าเว็บย่อยๆ ของเราก็ได้ แถมยังเอาข้อมูลนี้ไปทำ Look a like เพื่อทำการค้นหาคนที่มีพฤติกรรมและความสนใจเหมือนกลุ่มลูกค้าของเราด้วย AI ของ Facebook และ Google ทำให้เราสามารถขยายกลุ่มเป้าหมายไปในทิศทางที่แม่นยำขึ้น
ใส่เพิ่มลูกเล่นต่างๆ ติดอาวุธและความน่าสนใจให้ธุรกิจ

○ การ Search หรือ Filter สินค้าที่ลูกค้าต้องการ ในธุรกิจที่มีสินค้าเยอะๆ
○ มีระบบการคำนวณต่างๆ เช่นคำนวณการสั่งซื้อ ยอดจองต่างๆ

แน่นอน ในบางสินค้าหรือบริการ ข้อมูล รายละเอียดต่างๆ มีเยอะมากๆ การลงข้อมูลใน โซเชี่ยลมีเดีย นอกจากจะอ่านยาก เข้าใจยากแล้ว ยังค้นหายากด้วย เพราะโพสใหม่ๆ ก็จะดันโพสเก่าๆ ตกลงไป ทำให้การลงข้อมูลสินค้าบนเว็บไซต์จะได้เรียบตรงจุดนี้มาก

สามารถวัดผลการโฆษณา และการทำแคมเปญการตลาดได้ด้วยเครื่องมือต่างๆ

การลงทุนโฆษณา ใช้เงินลงไป สิ่งนึงจำเป็นอันดับต้นๆ คือนอกจากการทำให้ยอดขายโดยรวมเพิ่มขึ้นแล้ว เรายังต้องรูปว่าโฆษณาตัวไหนสร้างยอดขายมากที่สุด คนเข้าหน้าไหนแล้วขายได้มากที่สุด สินค้าตัวไหนอัตราการซื้อเยอะ แต่คนเข้าน้อย อาจจะต้องเพิ่มงบประมาณการยิงโฆษณาเข้าไปในหน้านั้นๆ หรือไม่ ทำให้เราสามารถแบ่งงบประมาณการตลาดไปลงในช่องทางที่เหมาะสมและคุ้มค่าเม็ดเงินที่เราลงทุนไป ซึ่งเว็บไซต์ของเราสามารถติดตั้ง code ในการตรวจสอบพฤติกรรมของลูกค้าพวกนี้ได้ครับ (หลักๆที่ใช้กัน ก็คือ Google analytic, Facebook pixel และ Google ads conversion code )
ความต้องการของลูกค้าที่มาจากการ Search มีความต้องการซื้อสูงมาก

หลายคนคงเคยลงทุนซื้อโฆษณาของ Facebook มาบ้างแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นการกำหนดกลุ่มเป้าหมายตามความสนใจ ให้ facebook กำหนดให้ว่าคนไหนสนใจอะไร แต่จะแตกต่างจากการลงโฆษณาบน Google เราสามารถกำหนดเป้าหมายด้วยคำค้นหาที่ลูกค้าใช้ค้นหาบน Google แน่นอนครับทุกท่านคงเคย Search google หาข้อมูลก่อนที่ซื้อสินค้าบางอย่างใช่ไหมครับ นั่นแหล่ะครับ ความต้องการอยากซื้อสอนค้าของเราค่อนข้างชัด และถ้ามีใครไปอยู่ให้ข้อมูล หรือนำเสนอขายสินค้า เพื่อตอบโจทย์การค้นหาของเราในเวลาที่เราต้องการ ทำให้เราตัดสนใจซื้อของกับเจ้านั้นได้ไม่ยากเลยใช่ไหมครับ
ถ้าอยากทำ Funnel เว็บไซต์ เป็นส่วนนึงที่จำเป็นมากๆ

หลายๆคนอาจจะเคยได้ยินเรื่องการทำ Funnel มาบ้าง มันคือการแบ่งขั้นตอนการดึงลูกค้าจากที่ไม่รู้ ให้เข้ามารู้จัก จนเค้ารู้จักมักคุ้น เชื่อใจธุรกิจของเรา และเปลี่ยนให้เค้าเข้ามาเป็นลูกค้า และสุดท้ายที่สุดคือการบอกต่อ การที่จะทำแบบนี้ได้เราต้องมีเครื่องมือในการสร้าง funnel ระดับต่างๆ ซึ่งการใช้เว็บไซต์ เป็น funnel ก็เป็นที่นิยมมากๆเลยครับ เราอาจจะเปิดด้วยบทความ ทำไมถึงต้อง…. >> วิธีทำ….. >> โปรโมชั่น >> ปิดการขาย >> บอกต่อ ขั้นตอนเหล่านี้ใช้ website เป็นเครื่องมือหลักในการทำเลยครับ ทั้งหน้าบทความให้ความรู้และ sale page ที่ใช้ในการปิดการขาย
เคยมั้ย เข้าไปในเพจ แล้วหาข้อมูลไม่เจอ แต่ถ้าเข้าเว็บ มีทุกอย่างที่ลูกค้าอยากรู้ และยังเข้าถึงง่ายอีกด้วย

หลายครั้งนะครับที่เวลาเราอยากดูข้อมูลสินค้า แต่เข้าไปในเพจ แล้วหาข้อมูลไม่เจอ ต้องแชทเข้าไปถามเจ้าของเพจ กว่าจะตอบหรือได้คำตอบมาก็ไม่ตรงกับที่ต้องการ แต่ถ้าเรามีเว็บไซต์ที่ออกแบบมาอย่างดี เข้าใจความต้องการของลูกค้า ว่าเค้าควรจะรู้อะไรบ้างก่อนการตัดสินใจซื้อ เพียงเท่านี้เราก็ได้เปรียบคู่แข่งที่ไม่มีเว็บไซต์และสามารถปิดการขายได้ง่ายขึ้น
ศูนย์รวมช่องทางการติดต่อ พร้อมฟอร์มกรอก lead แบบไร้ขีดจำกัด

ในเว็บไซต์เราสามารถใส่ช่องทางการติดต่อได้อย่างไม่จำกัด ไม่ว่าจะเป็น Page facebook, chat FB, Line, แผนที่มาหน้าร้าน, เบอร์โทร หรือให้เค้ากรอกฟอร์มเพื่อให้เราติดต่อกลับได้อย่างง่ายดายและสวยงามน่าใช้อีกด้วย
จัดกลุ่มของเนื้อหาได้อย่างอิสระ

ในบางธุรกิจ มีข้อมูลเยอะแยะมากมายที่อยากจะแสดงบนซื่อออนไลน์ แต่พอเข้าไปใน Social media แล้วก็งงๆ จัดกลุ่มแบบไม่ค่อยเป็นระเบียบ หาดูยาก แต่ถ้าในเว็บไซต์ เราสามารถแบ่งหมวดหมู่ของสินค้าได้อย่างอิสระ ถ้ามีสาขาของธุรกิจ เราก็สามารถแสดงข้อมูลได้ หรือแม้แต่บทความในเว็บไซต์เพื่อให้ความรู้และช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ก็สามารถแบ่งหมวดหมู่ได้ชัดเจน ลูกค้าเข้ามาแล้วไม่งง ทางเจ้าของธุรกิจก็ไม่ต้องมาคอยตอบคำถามเดิมๆ ซ้ำๆ ด้วย ขายโฆษณาเพิ่มรายได้อีกช่องทาง

ในบางธุรกิจ ถ้ามีคนเข้าเว็บจำนวนนึง แล้วบังเอิญว่าคนเข้าเว็บไซต์ของเราเป็นคนกลุ่มเดียวกับธุรกิจอื่นๆ เราอาจจะสามารถขายโฆษณาได้ หรืออาจจะจับมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ แชร์สื่อที่ตัวเองมีให้อีกผ่ายได้ใช้งาน ถึงว่าเป็นข้อดีไม่น้อยเลย หรือถ้าใครมีคนเข้าเว็บมาอ่านบทความเยอะๆ ใน Blog ของธุรกิจของเรา นอกจะเอาไว้ดึงลูกค้าไปซื้อของของเราได้เพิ่มขึ้น ก็ยังสามารถติดโฆษณา Google adsense เพื่อเป็นรายได้อีกช่องทางหนึ่งได้ด้วย